วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

0 วิธีสละโสด ให้มีเนื้อคู่อย่างคนอื่นเขา

อยากมีเนื้อคู่กับเขาบ้าง จะมีวิธีไหนบ้างหนอ! 

อยากมีเนื้อคู่กับเขาบ้าง จะมีวิธีไหนบ้างหนอ!
       อยากมีคนรัก คนมีรักมันเป็นแบบไหน คนอย่างฉันมันยังไม่เคยเข้าใจ บอกก็คงไม่รู้ ดีแค่ไหนก็คงไม่รู้ คงต้องหาสักคนมาเป็นเนื้อคู่... ร้องเพลงนี้แล้วก็ยิ่งทำให้จิตใจรู้สึกห่อเหี่ยวไม่น้อย ก็ออกนอกบ้านเป็นไม่ได้ ไม่งั้นแล้วก็จะได้เห็นคนมีคู่ เขาเดินจับมือถือแขนกระหนุงกระหนิงกัน คนที่ไม่มีคู่ก็เลยเกิดความรู้สึกที่อยากจะมีคู่ควงนี่สิ!!


       เรื่องแบบนี้ถือว่าเป็นกันหลายคนนะ โดยเฉพาะคนโสดมากมายที่อยากจะมีคู่บ้างเหลือเกิน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำไงดี ลองแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา เมื่อเป็นแบบนี้ คนโสดคนไหนไม่อยากโสดแล้ว ลองมาอ่านวิธีดูที่อาจจะช่วยให้คุณมีคนพิเศษข้างกายดูสักหน่อย

       1. ประกาศกับเพื่อนๆ ว่าคุณจะจัดงานปาร์ตี้ใหญ่ยักษ์ที่จะมีของกิน และเครื่องดื่มเพียบกะว่า เลี้ยงไม่อั้น แต่…ถ้าใครอยากมา อย่าลืมหนีบเอาชายโสดมาด้วย งานนี้ใครพ่คนรักมาไม่ให้เข้า เห็นใครมีความสุขแล้ว ตาจะลุกเป็นไฟ รัศมีนางอิจฉากำเริบทันที…

       2. ประสงค์จะมีแฟนทั้งที ต้องใจกล้าหน้าด้านเข้าไว้ ควรกล้าที่จะเป็นฝ่าย เข้าไปคุยกับคนแปลกหน้าทุกวัน แต่จะเข้าไปตีซี้หรือเจ๊าะแจ๊ะกับใคร ก็ดูตาม้าตาเรือหน่อย ไม่ใช่เซ่อซ่าเข้าไปหวังจับคนที่ดูแล้ว เขาไม่เล่นกับเราด้วยแน่ๆ คงเสียเวลาเปล่า

       3. ส่งอีเมล์โปรยเสน่ห์หาคู่ใจ ตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่เปิดให้บริการด้านนี้ จนเกลื่อนคอมฯ หรืออาจให้เพื่อนนัดบอดให้อีกทอดหนึ่งก็ได้ แต่มีข้อแม้หน่อยว่า ถ้าเพื่อนนัดใครให้ แล้วไม่ถูกใจ จะไปตำหนิเพื่อนก็ไม่ถูกนัก เพราะใครจะไปรู้ซึ้ง รสนิยมแท้จริงของคุณเล่า ช่วยให้รู้จักกันก็ดีแค่ไหนแล้ว หลังจากนั้นจะสานสัมพันธ์กันต่ออย่างไร ก็อยู่ที่ความชอบของแต่ ละคน เรื่องแบบนี้ใครจะไปบังคับใจกันได้

       4. วันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ควรใช้ทุกเวลานาทีให้เป็นประโยชน์ ด้วยการออกไปสังสรรค์ เฮฮาตามบ้านเพื่อนฝูง ต้องรู้จักเปิดตัวกับคนอื่นเข้าไว้ แถมถ้าได้ไปงานเลี้ยง ซึ่งจัดแบบเป็นกันเอง ก็อย่าได้แต่งตัวมิดชิดเกินเหตุ จะเปิดนิดโชว์หน่อยก็รีบทำซะ ยังอยู่ในวัยสะพรั่ง หากไม่โชว์ตอนนี้แล้วจะเก็บไว้ตอนไหน

       5. สำรวจตรวจตราดูสิว่า มีสถานที่แห่งหนตำบลใดบ้าง ซึ่งคนในสเปกของคุณชอบ ไปสุมกันอยู่ในนั้น แล้วจงรีบจรลีไปได้เลย อย่ามัวแต่เอ้อระเหยอยู่บ้าน ทำเป็นอะโนเนะมากๆ คงหาแฟนได้หรอก
       6. หากเจอคนถูกใจเข้าอย่างจัง อย่าปล่อยให้หลุดมือ ทำยังไงก็ได้ที่จะยื้อเขาไว้ แต่ตรงข้าม ถ้าพากเพียรหาอยู่นานก็ยังไม่เจอ “ตามสเปก” ตรงใจเสียที ก็อย่าเสียเวลา จีบกันไปจีบกันมากับคนที่เราไม่ได้คิดจริงจังด้วยหน่อยเลย เพราะไม่งั้นก็เท่ากับปิดโอกาสทั้งของเขาและของเรา
ที่มา http://love.horoworld.com/94192
your ad here

0 ผู้หญิงต้องการอะไรบนเตียง

ผู้หญิงต้องการอะไรบนเตียง 


ผู้หญิงต้องการอะไรบนเตียง

Atmosphere


อย่างแรกเป็นสิ่งที่น่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีก็คือ บรรยากาศ การสร้างบรรยากาศที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการปลุกเร้า และสร้างอารมณ์ที่ดีให้กับผู้หญิง ลองคิดดูง่ายๆ ว่า คุณเลือกร้านอาหารสุดหรู ราคาแสนแพง หรือกิจกรรมสุดแสนวิเศษต่างๆ ที่ตระเตรียมไว้ แต่สุดท้ายเมื่อมาถึงเวลาลงเอยที่เตียงนอน ปรากฏว่าห้องของคุณกลับสุดแสนจะสกปรก แถมรกแบบสุดๆ แม้ว่าคุณจะสามารถอ้างได้ว่าคุณเป็นชายโสดที่ไม่ยึดติดกับระเบียบของห้องนอน แต่รับรองว่าฝ่ายหญิงย่อมรู้สึกสะดุดใจอยู่นิดๆ ดังนั้นเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว การจัดเตรียมห้องให้ดูดีมีบรรยากาศแบบโรแมนติกสักนิดก็เสริมความประทับใจได้ อาจจะด้วยช่อดอกไม้สวยๆ สักช่อ เปิดเพลงคลอเคล้าเบาๆ สักหน่อย แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว


Detail

หลังจากที่บรรยากาศเริ่มเข้าที่แล้ว การใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ของฝ่ายหญิงก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมากอย่างหนึ่ง เพราะถึงแม้ว่าเราจะเตรียมบรรยากาศที่แสนดีไว้แล้ว แต่สำหรับบางคนอาจจะชอบอะไรที่เรียบง่าย หรือบางคนก็ชอบแบบฮาร์ดๆ ดังนั้นระหว่างทางก่อนที่จะมาบรรจบกันบนเตียงนอน คุณควรที่จะรู้จักนิสัยใจคอของอีกฝ่ายบ้างก็เป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้เธอประทับใจคุณโดยไม่รู้ตัว


Foreplay


และเมื่อทุกอย่างเป็นใจแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะพุ่งเข้าใจเธอท่าเดียว เพราะคุณจะต้องเรียนรู้การที่จะเริ่มต้นที่ดีอีกด้วย คงไม่ดีแน่ถ้าคุณหื่นกระหายและมีความต้องการในร่างของเธอ ไม่ว่าเธอจะยินยอมพร้อมใจหรือไม่ก็ตาม ควรค่อยๆ ที่จะเริ่มรุกไล่เข้าไป เพื่อให้เธอไว้ใจ และวางใจในตัวคุณอย่างมากที่สุด

เมื่อเธอเริ่มปล่อยวางและผ่อนคลายกับคุณ รวมทั้งแสดงทีท่าอย่างเป็นกันเองมากที่สุดแล้ว การรุกเร้าด้วยการเล้าโลมเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง อาจเริ่มต้นเบาๆ ที่ใบหู ซอกคอ หน้าอก ต้นขา และไล่เรียงไปถึงจุดสำคัญส่วนตัว หรือแม้กระทั่งใช้การจูบที่ดูดดื่มก็เป็นการเริ่มต้นของอารมณ์รักที่ดีอย่าง ไม่ยากเย็น

การเล้าโลมที่ดี ย่อมต้องใช้เวลาสักระยะ และเมื่อเล้าโลมจนถึงจุดหนึ่งแล้ว คุณต้องรู้จักใช้ลีลาเข้าไปเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ในช่วงนี้คุณอาจจะต้องปล่อยให้เธอเป็นคนควบคุมจังหวะเอง เพราะจากสถิติส่วนใหญ่แล้ว หากผู้หญิงได้เป็นฝ่ายเดินเกมเองมีโอกาสมากที่เธอจะไปถึงจุดสุดยอดได้อย่าง พึงพอใจ คุณอาจจะหยอกเย้า ให้จังหวะเปลี่ยนบ้างแต่ต้องไม่ทำให้จังหวะรักของคุณเสีย เพราะไม่อย่างนั้นทั้งหมดที่ทำมาอาจล่มเอาง่ายๆ


Sound


เสียงก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทั้งคุณและเธอสามารถรู้สึกดีไปพร้อมๆ กันได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นการครวญครางที่ดังสนั่น เพียงแค่ปล่อยไปตามอารมณ์ก็สร้างความเร้าใจให้กับอีกฝ่ายได้อย่างมากมาย และสิ่งนี้คุณอาจจะไม่รู้แต่ผู้หญิงก็พร้อมจะรอฟังเสียงกระเส่าจากคุณอยู่ เหมือนกัน หากคุณเหนียมอายก็ลองครางเบาๆ ให้เธอได้ยิ้มบ้างก็เป็นสิ่งดี หรือจะเป็นการหอบเพราะคุณกำลังจะไปถึงฝั่งก็ทำให้เธอรู้สึกดีกับคุณเช่น เดียวกัน


Sex Positions


ท่วงท่าต่างๆ ที่คุณหยิบมาใช้บนเตียงก็เป็นสิ่งที่ฝ่ายหญิงรอคอยอยู่เหมือนกัน ไม่ต้องกลัวว่าเธอจะรู้ว่าคุณผ่านศึกมาเยอะ เพราะบางอย่างไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง เพียงแต่คุณได้ลองทำเธอก็พร้อมจะทำตามคุณอยู่แล้ว ท่าเบสิคที่ปล่อยให้ฝ่ายหญิงนอนราบอยู่บนเตียงอาจไม่ทำให้เธอประทับใจเท่าใด นัก ลอง Woman on Top หรือ Doggy Style บ้างก็นับเป็นการเปิดฉากเรื่องบนเตียงได้อย่างเร้าใจ


After Sex


สิ่งที่สำคัญที่สุดหลังจากเสร็จกิจกรรมนี้แล้วผู้ชายมักมองข้ามก็คือ การใส่ใจในอีกฝ่าย เพราะหลายๆ คนเมื่อเสร็จกิจของตนแล้วก็ปล่อยปะละเลย บางคนก็นอนหลับ บางคนก็ลุกหนีไปห้องน้ำเลย สิ่งเหล่านี้จะทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง คุณควรใส่ใจด้วยการโอบกอดสักนิด เพื่อให้เธอได้สัมผัสถึงไออุ่นจากร่างกายของคุณ และทำให้เธอรับรู้ว่าวันนี้เป็นวันที่วิเศษจริงๆ


The Final


สุดท้ายสิ่งที่คุณควรจะต้องทำคงหนีไม่พ้นคำพูดหวานๆ ที่จะทำให้เธอชื่นใจ แค่นี้เธอก็ตกหลุมรักคุณมากขึ้นกว่าเดิมไม่รู้เท่าไรแล้วล่ะ


ที่มาhttp://love.horoworld.com/94192
your ad here

0 4จูบ อย่างดูดดื่ม ลุกเร้าอารมณ์

4จูบนี้ต้องลอง ถ้าอยากสนุก 
     จูบ…เป็นการโหมโรงก่อนเริ่มบทพิศวาสที่ขาดไม่ได้ มันทั้งปลุกเร้าอารมณ์และแสดงถึงความใกล้ชิดสนิทเสน่หา แต่ถ้าจูบที่เคยเป็นเรื่องสนุกและซาบซ่าน เริ่มรู้สึกถึงความซ้ำซากจนน่าเบื่อ ก็อย่าปล่อยให้จูบต้องคลายมนต์ขลังเพียงเพราะขาดความคิดสร้างสรรค์เลย เรามีจูบหลากหลายรูปแบบมาให้คุณลองทำตาม แล้วจูบก็จะกลับกลายมาเป็นความสนุกสนาน ที่นำไปสู่ความซาบซ่านยิ่งขึ้นในขั้นต่อไป


จุมพิตผีเสื้อ
        โน้มใบหน้าของเขาเข้ามาใกล้ๆ แล้วใช้ขนตาของเราพรมพร่างไปทั่วใบหน้าของเขา ไม่ต้องใช้ปากเลยอย่า! หมุนหัวไปมาตลอดเวลา มันชวนให้รำคาญมากกว่าพิศวาสนะเธอ ค่อยๆ เคลื่อนไหวขนตาไปบนใบหน้าของเขาช้าๆ มันได้อารมณ์กว่าเยอะเลย

จุมพิตติ่งหู
        เราไม่ใช่ติ่งของใครนอกจากติ่งหู ก็ตรงนี้ไวต่อการสัมผัสสุดๆ แล้วใช้ปลายลิ้นเลียและก็งับติ่งหูเบาๆ พร้อมกับดูดมันนิด ๆ อย่า! รุนแรงเกินไป ถึงแม้จะเมามันในอารมณ์ขนาดไหน ถ้าถึงขั้นกัดก็หมดอารมณ์ได้นะเธอ

จุมพิตแสนอร่อย
         คราวนี้ต้องอาศัยตัวช่วยหน่อย เราอินสไปร์มาจากหนังเรื่อง “9 ½ Weeks” หาผ้ามาผูกตาเค้าซะ แล้วใช้ปากป้อนของกินอร่อยๆ ให้กัน ก่อนจะลงท้ายด้วยการจูบ! จะเป็นผลไม้ ช็อกโกแลต เยลลี่ หรือก้อนน้ำแข็งก็ได้แค่เตรียมไว้ให้มันมีขนาดพอดีคำ จะได้ป้อนกันง่ายๆ นะจ๊ะ อย่า! ทำปากจู๋เหมือนปากปลา หุบเข้าหุบออกเหมือนกำลังดูดอากาศหายใจ ไม่เซ็กซี่เลยสักนิด อ้าปากให้กว้างสักหน่อยแล้วใช้ลิ้นช่วย ทำไปช้าๆ เซ็กซี่กว่าเยอะ

จุมพิตพิฆาต
        ในระหว่างที่กำลังจูบกันอย่างเมามันจนอารมณ์เริ่มซู่ซ่า งับปลายลิ้นของเขาเบาๆ มันแสดงถึงความขี้เล่นและท้าทาย ให้เขาไปต่อให้ไกลกว่านี้ อย่า! อ้าปากกว้างเกินไป ถ้าริมฝีปากของเขาผลุบเข้าไปอยู่ในปากคุณได้ ก็แสดงว่าไม่ใช่ละ 

ที่มา http://love.horoworld.com/94957_4
your ad here

0 12-ไอเดีย-ตกแต่งการ์ดวันวาเลนไทน์

12 ไอเดีย ตกแต่งการ์ดวันวาเลนไทน์ 
             เทศกาลแห่งความสุข 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ กำลังจะมาถึง นอกจากของขวัญไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลต กุหลาบที่จะมอบให้กันแล้ว การเขียนการ์ดวันวาเลนไทน์ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีแสดงความรักที่ละเอียดอ่อน เป็นโอกาสที่เราจะได้เขียนเรื่องราวความรู้สึกดีๆ ให้คนรักได้รับรู้ ถ้าอยากให้คนรักประทับใจแล้วละก็การทำการ์ดด้วยตัวเอง หรือ D.I.Y จะยิ่งเพิ่มความภูมิใจกับเราและเพิ่มความประทับใจให้กับคนรักมากขึ้น  เรามีหลากหลายไอเดียการทำการ์ดมาให้ลองไปทำกันดู

การ์ดวันวาเลนไทน์การ์ดวันวาเลนไทน์
เอากระดาษสีแดงหรือชมพูมาพับทบกันไปมาตัดเป็นรูปหัวใจ จะได้หัวใจหลายดวงต่อๆ กัน สามารถเขียนเรื่องราวประทับใจลงได้หลายข้อความเลย
การ์ดวันวาเลนไทน์การ์ดวันวาเลนไทน์

แบบนี้เหมาะกับคู่รักอาร์ตๆ ที่สุด นำสีแดงมาสลัดสะบัดลงบนกระดาษสีขาว โดยอาจจะร่างกรอบเป็นรูปหัวใจคร่าวๆ ไว้ก่อน เตรียมกระดาษไว้หลายๆแผ่นได้เลย เพราะงานนี้ต้องมีเลอะเทอะกันก่อนที่รูปหัวใจที่สวยงามแน่นอน

การ์ดวันวาเลนไทน์การ์ดวันวาเลนไทน์

ตัดกระดาษเป็นรูปหัวใจเล็กๆ หลายๆดวง หลายๆ ขนาด มาแปะบนกระดาษสีขาวเรียงให้ดูเป็นรูปต้นไม้ดังภาพ

การ์ดวันวาเลนไทน์การ์ดวันวาเลนไทน์
หรือจะนำกลีบกุหลาบสดๆ มาแปะเป็นรูปหัวใจลงบนการ์ดไปเลย ก็ได้สีสวยๆ และกลิ่นหอมของกุหลาบ น่าประทับใจไปอีกแบบ
การ์ดวันวาเลนไทน์การ์ดวันวาเลนไทน์

ตัดกระดาษสีขาวเป็นรูปหัวใจวางซ้อนกันสองดวงมีศรรักปักด้วยและเสียบลงบนกระดาษสีแดงให้สีตัดกัน โดนใจคนรักแน่นอน

การ์ดวันวาเลนไทน์การ์ดวันวาเลนไทน์
จะเอากระดาษสีแดงแปะทับกระดาษสีขาว หรือจะเอากระดาษสีขาวทับสีแดงก็ได้ แล้วก็ฉีกให้เป็นรูปหัวใจ ให้เห็นสีกระดาษที่อยู่ด้านใน สวยๆแนวๆ ไปอีกแบบ
การ์ดวันวาเลนไทน์การ์ดวันวาเลนไทน์
เขียน คำว่า LOVE ตัวใหญ่ๆ ลงบนกลางกระดาษ แล้วเขียนลวดลายน่ารักๆ ใช้สีสีนสดใสๆตกแต่ง เรียบง่ายแต่ดูจริงใจดี
การ์ดวันวาเลนไทน์การ์ดวันวาเลนไทน์
ตัดกระดาษสีต่างๆ ทั้งแดง ชมพู ขาว เป็นรูปหัวใจไล่ขนาด นำมาแปะซ้อนกัน กลายเป็นหัวใจสีสันสดใส
การ์ดวันวาเลนไทน์การ์ดวันวาเลนไทน์

ถ้ารู้สึกเบื่อกับหัวใจสีแดงแล้ว ก็ลองเปลี่ยนมาระบายหัวใจเป็นสีรุ้งสดใสลงบนการ์ดสีขาวดูบ้าง ก็แปลกแหวกแนวดี

การ์ดวันวาเลนไทน์การ์ดวันวาเลนไทน์


หาริบบิ้นแดงหรือจะใช้กระดาษสีแดงก็ได้มาม้วนวางเป็นรูปหัวใจแปะวางบนกระดาษสีขาว ง่ายๆ แต่ดูดีมีมิติ

การ์ดวันวาเลนไทน์การ์ดวันวาเลนไทน์
พับกระดาษเป็นรูปหัวใจ เสียบลงบนกระดาษสีแดง ในรูปหัวใจเราอาจจะเขียนข้อความลงไปด้วยก็ได้

การ์ดวันวาเลนไทน์

ที่มาhttp://love.horoworld.com 
your ad here

วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557

0 ผู้ชายที่ไม่ควรคบ!!!

ในเมื่อโลกนี้ไม่ได้มีแต่เทพบุตร หญิงสาวอย่างเราจำเป็นต้องรู้เป็นอย่างยิ่ง ถึงผู้ชาย 3 ประเภทที่ควรเอาตัวออกห่างมากที่สุด ซึ่งจะเป็นประเภทไหนบ้างเรามารู้ไปพร้อมๆ กันค่ะ
ผู้ชาย 3 ประเภทที่ไม่ควรเฉียดใกล้!
1.ไม่ให้เกียรติผู้หญิง
ร้ายกาจค่ะ อันนี้ร้ายกาจมาก ไม่ให้เกียรติตรงนี้มีตั้งแต่กิริยาที่แสดงกับเรา ปากว่ามือถึง เผลอเป็นลูบเป็นคลำ หรือบางทีทำเนียนจับมือจับตัวโดยที่เราไม่รู้ตัว คือรู้เลยว่าเขาคงทำแบบนี้จนชินจนกลายเป็นกลมสันดานไปแล้ว แล้วผู้ชายแบบนี้นี่นะคะ ที่จะยืนเคียงข้างของคุณทั้งชีวิต ส่วนไม่ให้เกียรติอีกประเภทก็คือ คบกับเราแต่บอกคนอื่นว่าโสด ปกปิดสถานะที่แท้จริง เขาอาจให้เหตุผลเราว่าอาจกระทบต่อหน้าที่การงาน บลาๆ ซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือการไม่ให้เกียรตินั่นเองค่ะ เผลอๆ เขาอาจจะทำแบบนี้กับหลายๆคนก็ได้ มันเป็นอุบายให้เขามีช่องทางคบผู้หญิงได้หลายคนในเวลาเดียวกัน ลองคิดดูสิคะว่าจะรู้สึกอย่างไร สมมุติว่าตอนอยู่ด้วยกันคุณไปทานข้าวที่บ้านเขาก็กระหนุงกระหนิงกันดี แต่พอเดินออกมานอกบ้าง เขาบอกให้คุณเดินอ้อมไปอีกทางแล้วไปเจอกันปากซอย มันใช่เหรอคะ นี่มันหยามเกียรติกันชัดๆ ผู้ชายแบบนี้สมควรถอยห่างที่สุดในสามโลกค่ะ
2.ลูกครึ่งแมงดา
นี่ก็ร้ายกาจไม่แพ้กันค่ะ ผู้ชายประเภทนี้มักจะมีดีที่หน้าหล่อ หุ่นดี พูดง่ายๆว่าชาตรีมีรูปเป็นทรัพย์นั่นเองค่ะ พอเริ่มมีหญิงสาวไปติดบ่วง มนุษย์ผู้ชายประเภทนี้จะดูแลเทคแคร์เอาใจสารพัด ยิ่งพอหญิงสาวเหล่านี้หลงรัก เขาจะเริ่มปฏิบัติการปอกลอกทรัพย์สินเงินทองอย่างเนียนๆ อย่างเช่นเวลาไปทานข้าว สั่งโน่นนี่นั่นมา ทำทีเหมือนจะเลี้ยงแต่ลืมกระเป๋าตังค์ไว้บ้าง พอเดินช้อปปิ้งพูดจาหวานระรื่นหู แต่อยากได้เสื้อผ้าแบรนด์เนมบลาๆ ก็จะมีคำพูดจาหว่านล้อม ซื้อเป็นของขวัญให้ผมได้ไหม เวลาที่ผมใส่ผมจะได้คิดถึงคุณตลอดเวลา แล้วยิ่งเป็นช่วงกำลังหลงหัวปักหัวปำล่ะก็นะ ถ้าไม่สวยและรวยมากจริงก็เตรียมหมดตัวได้เลยค่ะ
3.เจ้าชู้ไม่รู้จักพอ
ข้อนี้ควรห่างไกลที่สุดเลยนะคะ เข้าใจค่ะว่าผู้ชายเจ้าชู้ดูมีเสน่ห์ และท้าทายสำหรับหญิงสาวอย่างเราๆมาก อาจจะดูท้าทายและสนุกในช่วงแรกๆ แต่ในระยะยาวจากรักสนุกจะกลายเป็นทุกข์ขนัดเชียวล่ะค่ะ ขึ้นชื่อว่าผู้ชายเจ้าชู้ เค้าไม่หยุดที่ใครง่ายๆ หรอกค่ะ คบซ้อนมาซ้อนไปจนกว่าจะเจอจุดที่อิ่มตัว หือจะเจอผู้หญิงที่เด็ดจริงเจ๋งจริงถึงจะปราบเขาเขาได้ แต่แน่ใจหรือคะว่าคุณเป็นคนๆ นั้น แล้วมันก็ไม่ใช่ทุกคนนะคะที่จะปราบผู้ชายเจ้าชู้ได้อยู่หมัด ถ้าอยากมีความรักที่สงบสุข แนะนำว่าอย่าเอาใจไปเปลืองกับผู้ชายเจ้าชู้ที่ไม่รู้จะพอเมื่อไหร่ดีกว่าค่ะ
ถ้าหลีกหนีผู้ชาย 3 ประเภทนี้ได้ ชีวิตของคุณจะไม่วุ่นวาย และดีงามขึ้นอย่างที่คุณคิดไม่ถึงเลยล่ะค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากwww.chicministry.com
your ad here

0 เมื่อเป็นโรคโลหิตจาง วิธีดูแลตัวเอง!!

ดูแลตนเองเมื่อเป็นโลหิตจาง
โลหิตจางเป็นความผิดปกติของเลือดที่พบได้บ่อยที่สุด


โรงพยาบาลหลายแห่งกำลังขาดแคลดเลือด ซึ่งทีมงามอีแมกกาซีนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือสังคม แต่ทว่าหนึ่งสาวในทีมของเรากลับไม่สามารถบริจาคเลือดได้ แม้ว่าเธอจะดูแลร่างกายและพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอแล้วก็ตาม โดยคุณหมอได้ให้เหตุผลว่า เธอมีอาการของโลหิตจาง ซึ่งวันนี้เราคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักกับโรคที่ว่านี้กัน

ภาวะโลหิตจาง (Anemiaเป็นโรคทางโลหิตวิทยาที่พบบ่อยที่สุด โดยเกิดจากการมีจำนวนเม็ดโลหิตแดงน้อยหรือมีการทำงานที่ผิดปกติ สีของเม็ดเลือดแดงมาจากฮีโมโกลบิล ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีธาตุเหล็กเป็นตัวนำออกซิเจน
สำหรับการเกิดของโรคโลหิตจางก็เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากการขาดอาหาร การเผาผลาญบกพร่อง ยาบางชนิด ได้รับสารพิษ เสียโลหิตเป็นจำนวนมาก เป็นมะเร็งและโรคอื่นอีกหลายชนิด




คุณเป็นโลหิตจางหรือไม่
ผู้ป่วยมักมาด้วยอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ผิวซีด หอบเหนื่อย หัวใจเต้นแรง แต่การวินิจฉัยที่แน่นอนคือการตรวจเลือด (CBC) แล้วใครบ้างละเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการเกิดโรค
กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโลหิตจาง ได้แก่ สตรีมีครรภ์ สตรีหลังคลอด สตรีมีประจำเดือน และเด็กในวัยเจริญเติบโต ผู้หญิงที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์จะมีการสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงคุณแม่ และทารกในครรภ์อย่างเพียงพอ ส่วนสตรีหลังคลอดจะสูญเสียธาตุเหล็กไปกับเลือดขณะคลอด ดังนั้น ร่างกายต้องการธาตุเหล็กมากกว่าปกติเช่นกัน สำหรับเด็กจะต้องการธาตุเหล็กโดยเฉลี่ย 1 มิลลิกรัมต่อวัน จึงเพียงพอต่อร่างกายที่กำลังเจริญเติบโต แต่ธาตุเหล็กจากอาหารจะได้รับการดูดซึมไม่ดีนัก หรือเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ดังนั้นเพื่อป้องกันภาวะโลหิตจางในเด็กจึงควรได้รับธาตุเหล็กวันละ 8 ถึง 10 มิลลิกรัม ทั้งนี้ความต้องการธาตุเหล็กของเด็กที่ดื่มนมแม่จะน้อยกว่านี้ เพราะธาตุเหล็กจากนมแม่จะดูดซึมได้ดีกว่าถึง 3 เท่าตัว นอกจากนี้อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โลหิตจางได้คือการได้รับสารตะกั่วเข้าสู่กระแสเลือดมากเกินไป เด็กในช่วงอายุระหว่าง 9 เดือน – 2 ปี จะเป็นช่วงเสี่ยงต่อการเป็นโรคโลหิตจางมากที่สุด เด็กที่อยู่ในช่วงวัยนี้ควรได้รับการตรวจเลือดเพื่อดูว่าเป็นโรคโลหิตจางหรือไม่ โดยเฉพาะเด็กที่เกิดก่อนกำหนดควรได้รับการตรวจเลือดเร็วกว่าช่วงอายุดังกล่าว

 
โลหิตจาง…ที่พบบ่อย
-ชนิดขาดธาตุเหล็ก (Iron Deficiency Anemia) ซึ่งพบมากที่สุด เกิดจากร่างกายขาดธาตุเหล็ก ทำให้ไม่เพียงพอในการสร้างฮีโมโกลบิน อาจเกิดจากการรับประทานอาหารไม่เพียงพอ มีโรคลำไส้หรือเสียเลือด ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการมีประจำเดือนมากหรือมีการเสียโลหิตเรื้อรังจากสาเหตุอื่น
-ชนิดไขกระดูกบกพร่องหรืออะพลาสติก (Aplastic) เกิดเมื่อไขกระดูกไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดบางชนิดได้เพียงพอ เช่น เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว หรือเกล็ดเลือด แต่เม็ดเลือดที่ผลิตได้จะมีลักษณะทั่วไปเป็นปกติ สาเหตุที่เป็นไปได้คือ มีความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือมีเนื้องอกของต่อมไทมัส การได้รับรังสีและสารเคมีบางชนิดหรือเกิดภายหลังโรคติดเชื้อ ภาวะนี้อาจเกิดขึ้นโดยไมทราบสาเหตุ
-ชนิดขาดกรดโฟลิก (Folic acid Deficiency Anemia) มักเป็นผลจากการขาดวิตามินบีซึ่งจำเป็นในการสร้างฮีโมโกลบิน ภาวะโลหิตจางชนิดนี้พบบ่อยในโรคพิษสุรา และโรคลำไส้ ซึ่งพบน้อยกว่า
ชนิดเม็ดเลือดแดงแตกหรือฮีโมลิติก (Hemolytic Anemia) เกิดจากมีการทำลายเม็ดเลือดแดงเกินกว่าที่ร่างกายจะสร้างทัน บางครั้งเกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อต้านเซลล์เม็ดเลือดแดง
ชนิดขาดวิตามินบี หรือเพอร์นิเซียส (Pernicious Anemia) เกิดจากการขาดวิตามินบี12 เนื่องจากกระเพาะอาหารไม่สามารถสร้างสารที่จำเป็นในการดูดซึมวิตามินเข้าสู่กระแสโลหิต

 
การรักษาการรักษาโรคโลหิตจางในแต่ละชนิด มีแนวทางการรักษาที่ไม่เหมือนกัน หากสงสัยควรไปรับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง แต่โดยทั่วไปควรรับประทานอาหารเสริมสุขภาพและได้สมดุล แต่ก็ไม่ควรรับประทานยาเม็ดธาตุเหล็ก หรืออาหารเสริมชนิดอื่นๆ โดยไม่ปรึกษาแพทย์ การได้รับธาตุเหล็กมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อตับ หัวใจ และอวัยวะอื่นๆ
นอกจากนี้ คุณอาจเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กได้เช่นกัน โดยเลือกจากแหล่งอาหารของธาตุเหล็กอยู่ในอาหารหลัก 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ

 
ธาตุเหล็กชนิดที่อยู่ในเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ และอาหารทะเล
อาหารกลุ่มนี้จะมีธาตุเหล็กสูง และดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ดีที่สุด จะสังเกตได้จากเนื้อที่มีสีแดงยิ่งเข้มขึ้นแสดงว่ามีธาตุเหล็กสูง เมื่อรับประทานร่วมกับอาหารที่มิวิตามิน ซี สูง เช่น บร็อคโคลี่ พริก มะเขือเทศ ฝรั่ง ส้ม จะยิ่งช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้น

ธาตุเหล็กชนิดที่มีอยู่ในไข่และพืช ผักใบเขียวต่างๆ รวมไปถึงถั่วเมล็ดแห้งอาหารพวกนี้มีธาตุเหล็กสูง แต่ธาตุเหล็กในกลุ่มนี้จะดูดซึมเข้าร่างกายได้ไม่ดีนัก จึงควรรับประทานร่วมกับอาหารที่มีวิตามิน ซี สูงในมื้อเดียวกัน เพื่อช่วยในการดูดซึม
ขอบคุณข้อมูลจาก TEENEE.com
your ad here

0 วิธีแก้ง่วงเวลาทำงาน!!


อาการออฟฟิศซินโดรมอย่างหนึ่ง ที่รบกวนการทำงานของคนในสำนักงานคือ อ่อนเพลียง่วงเหงาหาวนอน ทำงานต่อไปไม่ไหว เหมือนกับอาการ ‘แบตหมด’
ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นโรค แต่เป็นอาการที่ร่างกายพยายามจะบอกเจ้าตัวว่า ไม่สามารถทนความเครียด ความร้อน ความเร่งรีบต่อไปได้อีกแล้ว เป็นเพียงอาการเล็ก ๆ ทางสมอง ส่งสัญญาณมาว่า “จะขอพักละนะ”
นักวิทยาศาสตร์พบว่า อาการดังกล่าวเกิดจาก2 สาเหตุหลักคือ ออกซิเจนที่ไปเลี้ยงสมองลดต่ำลง และน้ำตาลในเลือดลดลง เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เซลล์สมองจะทำงานต่อไปไม่ไหว มันก็จะปิดตัว ไม่รับคำสั่ง ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ง่วงเหงา ดังกล่าว หากฝืนตัวเองให้ทำงานต่อไป ร่างกายก็จะประท้วงมากขึ้น จะเกิดอาการปวดศีรษะ วิงเวียน หากใช้กาแฟกระตุ้น ซึ่งคนทั่วไปทำเช่นนี้ ก็รั้งแต่จะทำให้ประสาทเครียด สมองสั่งงานแบบไม่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งอาจจะเกิดอาการนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท ฝันมาก ตามมา

ดังนั้นวิธีการแก้ไขอาการง่วงเหงาหาวนอน ไม่มีแรง ‘แบตหมด’ สามารถทำได้ดังนี้
* ใช้ต้นไม้เพิ่มออกซิเจนในห้องทำงาน* งดของหวาน กินอาหารแป้งเชิงซ้อนเซลล์สมองต้องการน้ำตาลกลูโคสในการทำงานค่อนข้างมาก จึงจำเป็นที่ร่างกายต้องมีระดับน้ำตาลมากกว่า 80 มก./ดล. ดังกล่าว แต่ไม่ได้หมายความว่าให้คุณไปกินน้ำตาล หรือน้ำหวาน หรือขนมหวาน

ตรงกันข้าม การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้เพียงพอ จะทำได้ต่อเมื่อคุณกินอาหารประเภทแป้งที่เป็นเชิงซ้อน เป็นอะไรที่ร่างกายต้องเสียเวลาย่อย เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโพด ลูกเดือย ขนมปังก็ต้องเป็นโฮลวีท หรือเมล็ดธัญพืชต่าง ๆ ที่ไม่ขัดขาว ระดับน้ำตาลในเลือดจึงจะเพียงพอ ให้สมองใช้

* ออกกำลังกายสม่ำเสมอ* ฝึกหายใจทุกวันการฝึกหายใจทำให้ได้ผล 2 ประการคือ ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น และหากทำนานพอก็จะคลายเครียดได้ด้วย
ต่อไปนี้เป็นเครื่องดื่มที่จะเรียกเอาพลังงานกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องพึ่งคาเฟอีนจากชาจีน ชาฝรั่ง ชาเขียว หรือกาแฟ
ขอบคุณข้อมูลจาก TEENEE.com
your ad here

0 ผลไม้สีเขียวสร้างสุขภาพ!!

พูดถึงสีเขียว อาจจะเป็นสีโปรดของใครหลายคน แต่อีกหลายคนก็ไม่ชอบเอาเสียเลย วันนี้เราจะมาดูเรื่องของสีเขียวในแง่ที่สีนี้สามารถเป็นแรงบันดาลใจใน เรื่องสุขภาพได้อย่างไรบ้าง ไม่ใช่แค่เฉพาะสุขภาพกายเท่านั้น แต่สีเขียวยังมีส่วนช่วยสุขภาพจิตของเราอีกด้วย
Green Eating เมื่อพูดถึงสีเขียว หลายคนก็นึกถึงผักขึ้นมาเลยใช่ไหมคะ แน่นอนค่ะ ผักสีเขียว เป็นพระเอกของผักผลไม้เลยก็ว่าได้ เพราะในผักสีเขียวนั้น มีสารที่เรารู้จักกันดี คือ คลอโรฟีลล์ ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และยังมีสารอื่นๆ อาทิ เบต้าแคโรทีน แครทีนอยด์กลุ่มลูกทีน ไธโอไซยาเนต ฟลาโวนอยด์และอุดมไปด้วยกากใยที่จะช่วยเรื่องการขับถ่ายอีกด้วย 
มาถึงผักไทยๆ บ้าง “ผักกาดเขียวปลี” จัดเป็ฯมีสารอาหารสูง โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีนที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามิน A ให้แก่ร่างกาย ทำให้ป้องกันโรคตาฟาง ตาบอดกลางคืน หรือต้อตาชนิดต่างๆ ในคนชราได้
นอกจากนี้ เมล็ดของผักกาดเขียวมีคุณสมบัติทางยา มีกลิ่นฉุน ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร รักษาโรคหวัด ตลอดจนช่วยย่อยอาหารทำให้ท้องไม่อืด หรือแน่นเฟ้ออีกด้วย อีกทั้ง น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดผักกาดเขียวปลียังแก้ปวด แก้แพ้อากาศ หรือบรรเทาอาการคันได้ดีอีกด้วย มาที่ผลไม้สักชนิดดีกว่า สาวๆ ที่ไดเอ็ตคงคุ้นเคยกันดีกับ “แอปเปิ้ลเขียว” ผลไม้เปรี้ยวหวานที่ให้สารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและวิตามินซีสูงทีเดียว 
แอปเปิ้ลเขียวจะให้พลังงานราว 59 แคลอรีพลังงานที่ได้จากแอปเปิ้ลมีลักษณะพิเศษ คือ ให้พลังงานค่อนข้างต่ำและค่อยเป็นค่อยไป เพราะแหล่งพลังงานที่สำคัญคือ น้ำตาลฟรักโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้าๆ ช่วยให้ไม่รู้สึกหิว อิ่มนาน นอกจากนี้ที่เปลือกและเนื้อของแอปเปิ้ลมีเส้นใยอาหารที่ชื่อว่า "เพคติน" ที่มีคุณสมบัติพองตัวได้มาก ช่วยเพิ่มกากในทางเดินอาหาร ทำให้อวัยวะในทางเดินอาหารทำงานเป็นปกติ เพิ่มประสิทธิภาพในการขับถ่าย และยังช่วยจับคอเลสเตอรอลไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอีกด้วย
“สีมีอิทธิพลต่อจิตวิญญาณ” เขาศึกษาและสังเกตเห็นว่าคนส่วนใหญ่รู้สึกกระตือรือร้นในการใช้ชีวิต สีให้บรรยากาศที่สวยสดใส เช่น แสงทองของพระอาทิตย์ สีเขียวของน้ำทะเล มักทำให้เรารู้สึกอบอุ่นและเป็นสุข ดังนั้นจึงนับว่าสีมีอิทธิพลต่อมนุษย์และอาจนำมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบต่างๆ กัน เช่น นำไปใช้ประโยชน์ในเชิงบำบัดเพื่อรักษาอาการทางกายหรือทางจิตได้ด้วย 
จากงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร Personality and Social Psychology พบว่าเมื่อคนเรามองสีเขียวอย่างน้อย 2 วินาที ก่อนจะทำภารกิจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ จะช่วยให้เราครีเอทีฟกว่าดูสีอื่นๆ รวมทั้ง ขาว เทา แดง และฟ้า 


โดยการศึกษาชี้ว่าสีเขียว อาจมีผลต่อความคิดสร้างสรรค์เพราะมันเป็นสีที่แสดงถึงการเจริญเติบโต ทั้งทางกายภาพ และทางจิตใจ อย่างไรก็ดี "เขียว" นี้ หมายถึงเขียวจากต้นไม้ใบหญ้าเท่านั้น ยังไม่มีการศึกษาเพิ่มเติมว่าเขียวในเฉดอื่นๆ จะช่วยเรื่องความคิดสร้างสรรค์รึเปล่า แต่การลงทุนซื้อต้นไม้มานั่งมองบ้างก็ไม่เสียหายอะไรจริงไหม
ขอบคุณข้อมูลจาก Teenee.com
your ad here

eNews & Updates

Sign up to receive breaking news
as well as receive other site updates!

Recent Posts

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ยิ้มง่าย,เอาแต่ใจ,นิสัยดี..อิอิ

ผู้ติดตาม

ขับเคลื่อนโดย Blogger.